รีวิว สอบสัญชาติอเมริกัน แชร์ไทม์ไลน์ เตรียมตัวยังไง รวดเดียวผ่าน

ข่าวดีสุดสัปดาห์นี้ มีเรื่องมาอวดค่ะ😆
ใครขี้เกียจอ่าน จิ้มลิ้งก์วิดีโอไปฟังเม้ามอยได้เลย

โชะเดียวผ่านฉลุย

วันนี้เพิ่งไปสอบซิติเซนมาที่ศูนย์ Cincinnati ผ่านแล้วค่ะ🥳 ตอนนี้แค่รอจม.ส่งมาที่บ้านเพื่อไปนัดสาบานตน
ขอมาแชร์ไทม์ไลน์และประสบการณ์สั้นๆ นะคะ

22 Oct 2022 – ส่งแบบฟอร์มออนไลน์สมัคร N-400
29 Nov 2022 – ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ
30 Dec 2022 – ได้จดหมายนัดวันสอบซิติเซน
3 Feb 2023 – วันสอบ

เคสของเราคือสัมภาษณ์ทั้งเคสถอดถอนวีซ่า 2 ปีเป็น 10 ปี I751 และสอบซิติเซน N400 พร้อมกันเลยนะคะ
จดหมายบอกให้สามีมาสัมภาษณ์ด้วย แต่สรุปตอนเข้าไปสอบเจ้าหน้าที่ให้เราเข้าไปคนเดียวค่ะ
เจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิงท่าทางใจดีมีชวนคุยเป็นระยะๆ ค่ะเพราะเราพาเบบี๋ไปด้วย

เริ่มจากถามข้อมูลในฟอร์ม I751 ก่อน ชื่อเรา ชื่อเดิมก่อนแต่งงาน วันเกิด ชื่อสามี วันเกิดสามี ถามข้อมูลลูกๆ และวันแต่งงาน หลังจากนั้นเริ่มถามคำถาม Civic test ค่ะ

  1. What stops one branch of government from becoming too powerful?
  2. Who is the vice president?
  3. What is the supreme law of the land?
  4. Who wrote the Declaration of Independence?
  5. When do we celebrate Independence Day?
  6. What ocean is on the west coast of the US?

พอตอบถูกครบเจ้าหน้าที่ก็ให้อ่านประโยคจากหน้าจอไอแพดค่ะ
How many senators do we have?

แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้เขียนคำตอบตามคำบอกลงในไอแพด
We have 100 senators.

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าสอบผ่าน Civic test และ English test นะคะ มีถามคำถาม yes/no จากฟอร์ม N400 อีก 3-4 ข้อ (เคยเข้าคุกมั้ย, เคยเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายมั้ย, จะจงรักต่ออเมริกามั้ย, ถ้าจำเป็นจะต่อสู้เพื่อประเทศมั้ย)
แต่ไม่ได้ถามความหมายของศัพท์ค่ะ

แล้วเจ้าหน้าที่ก็พิมพ์ใบในรูปให้ แล้วบอกว่าผ่านเรียบร้อยค่ะ ยินดีด้วย รอจดหมายนัดวันสาบานตนมาส่งที่บ้าน น่าจะได้ประมาณเดือนหน้านะคะ

ใครที่กำลังเตรียมสอบซิติเซนอเมริกา สามารถศึกษาคำถามจากลิ้งก์นี้ได้เลยนะคะ จำให้แม่นๆ ไปเลยค่าา

https://www.uscis.gov/sites/default/files/document/questions-and-answers/100q.pdf

ตอบคำถาม ไขข้อสงสัย กรีนการ์ดล็อตโต้ DV 2024

บล็อกนี้มาตอบคำถามเกี่ยวกับการกรอกข้อมูลสมัครกรีนการ์ดล็อตเตอรี่ หรือกรีนการ์ดล็อตโต้ ปี 2024 นะคะ DV 2024 ไปอ่านคำถามที่ถามบ่อย และคำตอบได้เลยค่าา

ส่วนใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถเข้าไปฟังในคลิปนี้ได้เลย

คำถามเกี่ยวกับการกรอกข้อมูลสมัครในเว็บ
COMPLETING YOUR ELECTRONIC ENTRY FOR THE DV PROGRAM

1.ไม่มีพาสปอร์ตสมัครได้ไหม
ได้ แต่ตอนไปขอพาสปอร์ตต้องแน่ใจว่าสะกดเหมือนกันกับที่กรอกไป

2.ตอนนี้อยู่ที่อเมริกา สมัครได้ไหม
ได้ ตัวอยู่ที่ไหนในโลกก็สมัครได้

3.ตัวเรากับคู่สมรส สมัครแยกกันได้ไหม
ได้ ก็คือว่าถ้าคนใดคนหนึ่งถูกสุ่มได้ ก็ได้ไปทั้งครอบครัว

4.ตอนกรอกสมัคร เราต้องกรอกข้อมูลของใครในครอบครัวลงไปด้วยบ้าง
คู่สมรส และลูก

คู่สมรสคือคนที่เราจดทะเบียนสมรสด้วยแบบถูกต้องตามกฏหมาย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะแยกกันอยู่ แต่ถ้าในทางกฏหมายยังสมรสกัน ก็คือต้องกรอกข้อมูลลงไปด้วย 
ถ้าไม่กรอกข้อมูลคู่สมรสคือโดนตัดสิทธิเลย

Failure to list your eligible spouse or listing someone who is not your spouse will make you ineligible for a DV

ลูก ต้องกรอกข้อมูลลูกที่ยังมีชีวิตอยู่และอายุต่ำกว่า 21 ปีทั้งหมด ทั้งลูกที่ให้กำเนิดมาและลูกที่รับมาเลี้ยงทางกฏหมายทุกคน
ถ้าไม่กรอกข้อมูลโดนตัดสิทธิ หรือถ้ากรอกข้อมูลคนที่ไม่ใช่ลูกก็จะโดนตัดสิทธิเช่นกัน

However, if you fail to include an eligible dependent on your original entry or list someone who is not your dependent, you will be ineligible for a DV, and your spouse and children will be ineligible for derivative DVs

ย้ำว่า คู่สมรสและลูกที่เรากรอกชื่อไป ไม่ต้องย้ายไปกับเราก็ได้ถ้ามีเหตุจำเป็นที่พวกเขาจะต้องอยู่ไทยหรือว่าไม่อยากไป แต่ต้องกรอกข้อมูลให้ครบ

5.ต้องกรอกสมัครเองไหม คนอื่นกรอกให้ได้ไหมถ้ากรอกไม่เป็น
คนอื่นกรอกให้ก็ได้ แต่เจ้าตัวต้องเป็นคนรับผิดชอบตรวจสอบข้อมูลที่กรอกไป ถ้ากรอกผิดหรือแบบไม่ตรงกับความจริง โดนตัดสิทธิ จะไปเรียกร้องอะไรไม่ได้
และอย่าลืมเก็บหมายเลขคอนเฟิร์ม หรือ Confirmation Number ไว้ เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าโดนสุ่มเลือกมั้ย ตอนประกาศผล

6.สมัครวีซ่าอเมริกาประเภทอื่นไปแล้ว สมัครได้ไหม
ได้

7.ต้องกรอกให้เสร็จในรวดเดียวไหม กรอกไปเซฟไปได้ไหม
ไม่ได้ ต้องกรอกให้เสร็จในทีเดียว หลังจากกดเริ่มจะมีเวลาให้ 60 นาที ถ้ากรอกไม่เสร็จระบบจะเด้งออก และต้องกรอกใหม่ทั้งหมด

8.ถ้ากรอกเสร็จเรียบร้อย กดซับมิทแล้ว แต่เกิดเออเร่อ แบบเว็บล่มหรือหน้าคอนเฟิร์มไม่โหลด สามารถกรอกใหม่ได้ไหม
ต้องกรอกใหม่ ถ้าในระหว่างกรอกหรือกดซับมิตมีเออเร่อขึ้น และเรายังไม่ได้เลขคอนเฟิร์ม ถือว่าการกรอกสมัครไม่สำเร็จ กรอกสมัครใหม่ได้จนกว่าจะถึงวันที่ 8 พย ตอนห้าทุ่มเวลาไทย
ย้ำว่า ถ้าได้เลขคอนเฟิร์มเรียบร้อยแล้ว ห้ามสมัครซ้ำเป็นอันขาด โดนตัดสิทธิ

คำถามเกี่ยวกับการสุ่มเลือก SELECTION

9.จะรู้ได้ยังไงว่าเราได้วีซ่าไหม
เช็คได้ที่เว็บไซต์ dvprogram.state.gov ตั้งแต่วันที่ 6 พค 2023 – 30 กย 2024 เช็คได้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น จะไม่มีการส่งอีเมลหรือจดหมายหรือโทรศัพท์ใดๆ ไปทางผู้สมัครทั้งนั้น อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ

10.แล้วถ้าเราไม่ถูกเลือกล่ะ จะแจ้งหรือเปล่า
ไม่แจ้ง ต้องเข้าไปเช็คเองในเว็บไชต์เช่นกัน

11.ถ้าทำเลขคอนเฟิร์ม Confirmation number หายล่ะ จะทำยังไง
เขาบอกว่าสามารถเช็คเลขนี้ได้ในเว็บไซต์นะคะ โดยการใส่อีเมลและข้อมูลส่วนตัวเข้าไป

A tool is now available in Entrant Status Check on the E-DV website that will allow you to retrieve your confirmation number via the email address with which you registered by entering certain personal information to confirm your identity.  

12.ผู้สมัครจะได้รับข้อมูลหรือข้อความใดๆ ผ่านทางอีเมลหรือไปรษณีย์ไหม
ไม่ จะไม่มีการส่งอีเมลหรือไปรษณีย์ให้ผู้สมัคร ยกเว้น! กรณีที่ได้รับเลือก และผู้สมัครดำเนินขั้นตอนตามที่กำหนดไว้ หลังจากนั้นถึงจะมีการส่งอีเมลเพื่อแจ้งข้อมูลในลำดับถัดๆไป เช่น นัดวันสัมภาษณ์ แบบนี้

13.dv2024 นี้ รับกี่คน 
55,000 คน ขั้นตอนคือ ทางรัฐบาลอเมริกาจะสุ่มเลือกมากกว่า 55,000 คนก่อน สมมติว่าสุ่มเลือกมาแสนคน แล้วคนที่ถูกสุ่มเลือกแต่ละคนจะต้องรีบส่งเอกสาร สัมภาษณ์ ดำเนินการขอวีซ่าให้แล้วเสร็จให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าเขาออกวีซ่าให้ครบจำนวน 55,000 คนแล้ว ถึงแม้ว่าจะโดนสุ่มเลือกก็อดไปนะ เพราะวีซ่าเขาออกให้ครบจำนวนคนแล้ว เพราะงั้นถ้าโชคดีได้รับเลือกต้องรีบดำเนินการเรื่องเอกสารขอวีซ่า

14.ตอนนี้ตัวผู้สมัครอยู่อเมริกาอยู่แล้ว ถ้าโดนสุ่มเลือก ทำเรื่องปรับสถานะที่อเมริกาเลยได้ไหม
ได้ ยื่นเรื่องต่อ USCIS ขอทำเรื่องปรับสถานะเพื่ออยู่ถาวรได้เลย แต่ต้องจัดการเรื่องปรับสถานะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กย 2024

15.ถ้าผู้สมัครที่โชคดีได้รับเลือกตาย จะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าผู้สมัครตายก่อนที่จะเดินทางเข้ามาที่อเมริกา หรือก่อนที่จะปรับสถานะเแล้วเสร็จ จะถือว่าเคสนั้นเป็นโมฆะไป คู่สมรสและลูกของผู้ตายก็จะหมดสิทธิในการย้ายมาอยู่อเมริกาแบบถาวร ถึงแม้ว่าจะได้วีซ่าแล้ว วีซ่าที่ออกให้คู่สมรสและลูกก็คือถูกเพิกถอน ทำให้เป็นโมฆะเช่นกัน

คำถามเรื่องค่าธรรมเนียม

16.ค่าสมัครกรีนการ์ดล็อตโต้เท่าไหร่
ในการสมัครไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ถ้าได้รับสุ่มเลือกแล้วดำเนินการขอวีซ่า ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ เอง เช่นค่าธรรมเนียมการสมัครขอวีซ่า ค่าตรวจร่างกาย อะไรแบบนี้

17.ถ้าได้รับสุ่มเลือก สมัครขอวีซ่าไปแล้ว แต่ปรากฏว่าวีซ่าไม่ผ่าน จะได้เงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่จ่ายไปคืนไหม
ไม่ได้คืน ถ้าคุณสมบัติไม่ครบ วีซ่าไม่ผ่าน ก็คือไม่ได้วีซ่า และไม่คืนเงินให้

คำถามอื่นๆ

18.ถ้าโชคดีได้รับเลือก ทำเรื่องวีซ่าผ่านหมดเรียบร้อยแล้ว ทางรัฐบาลอเมริกาจะออกค่าเครื่องบิน จัดหาที่พัก หางาน หาประกันสุขภาพให้ จนกว่าเราจะย้ายบ้านลงตัวไหม
ไม่ ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หาบ้าน หางาน อะไรต่างๆ เอง รับผิดชอบตัวเอง

กรีนการ์ดล็อตโต้ DV 2024 รายละเอียดการลงทะเบียน คุณสมบัติผู้สมัคร เอกสารจำเป็น และข้อกำหนดรูปถ่าย

รายละเอียดการลงทะเบียน คุณสมบัติผู้สมัคร เอกสารจำเป็น ข้อกำหนดรูปถ่าย จบครบในบล็อกนี้

ใครขี้เกียจอ่าน จิ้มฟังในวิดีโอได้เลยค่าา

Dv คือ Diversity Visa วีซ่าเพื่อความหลากหลายทางเชื้อชาติ
กรีนการ์ดล็อตโต้ ก็คือการสุ่มแจกวีซ่า/กรีนการ์ดหรือที่เรียกกันว่าใบเขียว ให้คนเข้ามาอยู่อเมริกาแบบถาวร

รายละเอียดวันลงทะเบียน
วันที่เปิดให้ลงทะเบียน คือวันที่ 5 ตุลาคม ปี 2022 นี้ เที่ยงตรง ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน เที่ยงตรง เวลา ET 
เวลาที่ไทยคือ ห้าทุ่มของวันที่ 5 ตุลาคม ถึง ห้าทุ่มของวันที่ 8 พฤศจิกายน

รับทั้งหมด 55,000 คน สุ่มจากผู้สมัครทั่วโลก โดยปีนี้คนไทยก็ยังสมัครได้อยู่นะคะ 

คุณสมบัติผู้สมัคร
– ต้องจบม.ปลายหรือเทียบเท่าเป็นอย่างน้อย
หรือ
– มีประสบการณ์ทำงาน 2 ปี ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

เอกสารต้องเตรียมอะไรบ้าง
-รูปถ่ายขนาดวีซ่าอเมริกา 
-เตรียมพาสปอร์ต เพราะต้องกรอกชื่อให้เหมือนชื่อในพาสปอร์ต
-ถ้าแต่งงานแล้ว เตรียมข้อมูลและรูปถ่ายขนาดวีซ่าอเมริกาของคู่สมรสไว้ด้วย
-ถ้ามีลูกอายุน้อยกว่า 21 ปี เตรียมข้อมูลและรูปถ่ายขนาดวีซ่าอเมริกาของลูกไว้ด้วย

สำคัญ!
กดสมัครแค่รอบเดียวเท่านั้น ไม่งั้นจะถูกตัดสิทธิ์อัตโนมัติ

ประกาศผล
ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2023 ปีหน้า ไปจนถึง 30 กันยายน ปี 2024

ข้อกำหนดรูปถ่าย
รูปสี พื้นหลังขาว ขนาดวีซ่าอเมริกา ใส่ชุดทั่วไปที่ใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ใส่ชุดเครื่องแบบ ไม่ใส่หมวก ไม่ใส่แว่น

ดูตัวอย่างรูปได้ที่ลิ้งก์นี้
https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/visa-information-resources/photos/photo-examples.html

ข้อกำหนดเต็มๆ ฉบับภาษาอังกฤษ เข้าไปอ่านแบบละเอียดได้ค่าา https://travel.state.gov/content/dam/visas/Diversity-Visa/DV-Instructions-Translations/DV-2024-Instructions-Translations/DV-2024-Instructions-English.pdf#page7

หาบ้านเช่าเองที่เกาหลีแบบไม่ง้อนายหน้า ไม่เสียค่าธรรมเนียม เพียงใช้แอปนี้

คลิปวิดีโอนี้มาสอนใช้แอปหาบ้านเช่าที่เกาหลีค่าา ใครจะไปเรียน ไปทำงานที่เกาหลี แอปนี้ช่วยได้แน่นอน ไปดูวิธีใช้แบบ step by step กันเลยค่ะ แอบกระซิบว่าละเอียดมากๆ

ส่วนใครสนใจจะดูคลิปอื่นๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ ทั้งเกาหลีและอเมริกา สามารถจิ้มไปดูได้เลยที่
https://www.youtube.com/c/PennyOverseas_/videos
ขอบคุณที่ติดตามและรับชมค่าา

18 ข้อควรรู้ ก่อนไปเกาหลี (ภาค 2)

เกาหลีเปิดประเทศแล้วนะคะช่วงนี้ หลังจากที่เกิดวิกฤตโควิดมาร่วม 2 ปี
ใครจะไปเที่ยว ไปเรียน ไปทำงานที่เกาหลี ควรอ่านบล็อกนี้นะคะ จะได้ไม่ไปเด๋อที่เกาหลีน้าา

ใครยังไม่ได้อ่านภาคแรก ตามไปอ่านกันได้ที่นี่เลย https://magnumpc.wordpress.com/2022/04/11/15-%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9b%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%b5/

หรือใครขี้เกียจอ่าน ก็สามารถจิ้มไปฟังในยูทูปได้นะคะ จิ้มที่วิดิโอเล้ย~

18 ข้อควรรู้ก่อนไปเกาหลี (ภาค 2)
  1. บางร้านอาหารต้องสั่งอาหารตามจำนวนคน บางทีจะบอกตั้งแต่แจกเมนูให้เลย ว่าต้องสั่งอย่างน้อยตามจำนวนคนที่มานะ ไม่งั้นไม่เสิร์ฟ แต่ 1 เซิฟวิ่งของเกาหลีจะใหญ่มาก ใหญ่กว่าของไทยเยอะสำหรับคนที่ไม่ชิน ส่วนตัวไม่มีปัญหาเพราะกินเกินตลอด 555
  2. ร้านอาหารบางที่ต้องหยิบน้ำบริการตนเอง สังเกตคำว่า 셀프 self บางร้านรวมถึงหยิบเครื่องเคียงเองด้วย พวกกิมจิไรงี้
  3. ร้านฟาสฟู้ด หรือคาเฟ่ แทบจะทุกที่ต้องเก็บจาน เก็บถาดเองน้าา สังเกตหาป้าย return ประมาณนี้ อย่าลืมแยกขยะตอนทิ้งด้วย
  4. ปกติเราไม่กินกาแฟ แต่ทุกคนที่กินกาแฟที่เกาหลีเห็นตรงกันว่า กาแฟดำที่เกาหลีเจือจางมาก คือถูก แก้วใหญ่จริง แต่ไม่เน้นเข้ม เน้นปริมาณและกินบ่อย เพราะกินกันหลังอาหารแทบทุกมื้อ
  5. กูเกิลแมพไม่ค่อยเวิร์ค ควรใช้เนเวอร์แมพ แต่ไม่รู้มีภาษาอังกฤษมั้ย ถ้าพิมพ์เกาหลีได้จะดี แมพแม่นยำกว่ามากๆๆๆๆ หรือคาคาโอ้แมพก็ได้นะคะ ได้ยินมาว่ามีหน้า interface เป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่เคยใช้
  6. 모범택시 แทกซี่ดีเด่น ส่วนใหญ่แทกซี่สีดำจะแพงกว่าปกติ เพราะเป็นแทกซี่ดีเด่น ประมาณว่าปลอดภัยกว่า บริการดีกว่า คนขับใส่ยูนิฟอร์มด้วย แต่ไม่ใช่แทกซี่สีดำทุกคันจะเป็นแทกซี่ดีเด่นนะ ควรจะสังเกตดูคำว่า 모범 บนแทกซี่มากกว่า
  7. สีรถเมล์นะคะ สีแดงจะเป็นรถเมล์ที่วิ่งข้ามจังหวัด ข้ามเขตไกลๆ รถเมล์สีน้ำเงินจะเป็นรถเมล์ที่วิ่งในย่านเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน  ส่วนรถเมล์สีเขียวส่วนใหญ่จะเป็นคันเล็กๆ หน่อย วิ่งตามตรอกซอกซอยเล็กๆ เป็นรถเมล์ local นั่นเอง
  8. รถเมล์เกาหลี ขึ้นจากประตูด้านหน้า ลงประตูด้านหลัง จะมีที่แตะบัตรทั้งสองประตูนะคะ แต่ถ้าอย่างรถเมล์คันเล็กอาจมีประตูเดียว ต้องให้คนลงให้หมดก่อนค่อยขึ้นจ้า
  9. สำหรับ ผญ ท่อนล่างจะใส่สั้นแค่ไหนก็ได้ แต่ท่อนบนพยายามอย่าใส่พวกเกาะอก สายเดี่ยว เปิดหลัง อะไรแบบนี้ เพราะคนเกาหลีจะถือว่ามันโป๊มากๆๆๆ อาจโดนมองแรงหรือนินทาได้ นักท่องเที่ยวบางคนโดนป้าเกาหลีตะโกนด่ามาแล้วก็มี
  10. ไปงานแต่งใส่ชุดดำก็ได้ เดรสดำงี้ little black dress ก็ได้ ไม่ถือ
  11. เวลาไปงานแต่งหรืองานศพ เขาจะเลี้ยงข้าวด้วย เราควรใส่ซองทุกงานที่ไป ทั้งงานแต่งทั้งงานศพ อย่างน้อยประมาณ 5 หมื่นวอนต่อคนก็จะเป็นมารยาทที่ดีงาม
  12. ไปโนแรบัง คาราโอเกะ บ่อยมากๆ ใครจะไปสังสรรค์กับเพื่อนเกาหลี เตรียมตัวร้องเพลงเกาหลีไว้เลย เตรียมเพลงเก่งไว้ ไม่ค่อยมีเพลงสากลนะที่เกาหลี
  13. 대리운전 ตอนเมาขับรถกลับไม่ได้ จ้างคนมาขับรถเรานี่แหละ ไปส่งบ้าน ละเขาก็ค่อยกลับบ้านเขาเอง
  14. เกาหลีบางคน โดยเฉพาะส่วนใหญ่จะแก่ๆ หน่อย จะไม่ชอบญี่ปุ่นอยู่ จากการที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นไปหลายสิบปี ควรหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนานี้ และยังมีข้อพิพาทเรื่องเกาะ 독도 หรือที่เราอาจคุ้นๆ หูในชื่อเกาะทาเคชิมะ ซึ่งเกาหลีบอกว่าเกาะนี้เป็นของเกาหลี ส่วนญี่ปุ่นก็บอกว่าเกาะนี้เป็นของญี่ปุ่น ถ้าเลี่ยงไม่พูดถึงญี่ปุ่นได้ก็จะดี
  15. เป็นเมืองแห่งคู่รัก ไปไหนก็จะเจอเสื้อคู่ แต่งตัวเหมือนกัน มีจับมือ ควงแขน กอดจูบ ให้เห็นกันทุกที่นะคะ เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนจะสิงกันอยู่แล้ว จะแบบจุ๊บๆ กันทุกที่แม้ที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น ป้ายรถเมล์ ระหว่างรอรถใต้ดิน ที่ร้านกาแฟ เห็นได้ทั่วไปนะคะ เป็นเรื่องปกติ
  16. อย่าเขียนชื่อคนเกาหลีด้วยหมึกสีแดง เพราะเมื่อก่อนเขาใช้เขียนชื่อคนตายนะคะ บางคนเขาถือ
  17. อย่าปักตะเกียบตั้งไว้ในถ้วยข้าว เพราะเขาถือว่ามันเหมือนการไหว้เจ้าที่ ไหว้คนตาน ไหว้ผี อะไรแบบนี้ ไม่เป็นมงคล อย่าไปทำนะคะ
  18. เรื่องกินข้าวอีกเช่นกัน ปกติเวลากินข้าวเขาจะไม่ถือถ้วยข้าวขึ้นมากินนะคะ แต่ถึงจะอยากถือก็ทำไม่ค่อยได้อยู่แล้วเพราะถ้วยมันมาเป็นสแตนเลสและร้อนมาก ถือไม่ได้

15 ข้อควรรู้ก่อนไปเกาหลี

ช่วงนี้เกาหลีเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันได้แล้ว หลังจากที่ปิดจากโควิดมานาน

ใครจะเตรียมตัวไปเที่ยว ต้องอ่าน 15 นี้ก่อนเลย! อย่าไปเด๋อที่เกาหลีกันน้าา

ปล. ใครขี้เกียจอ่าน จิ้มฟังคลิปได้ค่าา

1. ถ้ารู้ภาษาเกาหลีจะดีมาก – เพราะต้องทำไรเองหมด คนเกาส่วนใหญ่ไม่ได้ภาษาอังกฤษ และชาตินิยมพอสมควร จะหาเพื่อนก็ควรพูดเกาหลี พูดได้นิดหน่อยก็ยังดี เขาเอ็นดู

2. จะไปเที่ยวหรือไปเรียนหรือไปทำงานที่เกาหลีก็แล้วแต่ – อย่า! ไปเที่ยวเรียกคนแปลกหน้าว่าอ้ปป้าๆ มันไม่สุภาพ เขาจะมองว่าแบบอะไรเนี่ย ส่วนใหญ่ถ้าจะใช้คำนี้คือต้องสนิทระดับนึงก่อนนะคะ ขนาดคนที่เรียนคลาสเดียวกัน บางทีเรายังต้องเรียกเขาว่ารุ่นพี่ก่อนเลย แล้วพอเริ่มสนิทๆ ค่อยยกระดับเป็นเรียกพี่ แล้วอีกอย่างก็คือ เป็นคำที่เอาไว้เรียกแฟนจ้า

3. และเช่นกันนะคะ เวลาไปเจอคุณป้าร้านอาหารอะไรแบบนี้ อย่าไปเรียกเขาอาจุมม่าๆ นะคะ โดนตบได้นะ ไม่สุภาพนะคะ ถ้าดูเหมือนเขาจะเป็นเจ้าของร้าน ถ้าอยากเรียก ให้เรียกซาจังนิม หรือถ้าจะเรียกแบบเซฟๆ เรียกพนักงานเสิร์ฟ เรียกคุณป้า คุณลุงเวลาจะสั่งอาหารแบบนี้ เรียก ชอกีโย แบบนี้ได้ค่ะ

4. ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด – จะไปไหนทำอะไร ขึ้นรถโดยสาร ซื้อของมินิมาร์ท เข้าคาเฟ่ ร้านอาหาร ใช้บัตรเติมเงินแทนเงินสด หรือ T-money จ่ายได้หมด แค่เติมเงินใส่บัตรไว้ หรือจ่ายด้วยมือถือก็ได้ พวกคาคาโอ้เพย์

5. ถนนกลับด้านกับไทย – เวลาข้ามถนนเราก็ดูซ้ายขวาทั้งสองข้างอยู่แล้วเนอะ แล้วก็อย่าลืมว่าต้องข้ามถนนที่ทางม้าลายเท่านั้นนะคะ ไม่เหมือนที่ไทยนะ

6. สังคมเร่งรีบ ปัลลีๆ หรือสังคมเร่งรีบ 8282 (8 อ่านว่า พัล 2 อ่านว่า อี) – ทุกคนรีบ เดินเร็วมาก เดินชนกันก็ไม่มีการขอโทษนะ ก็คือเดินไหล่กระทบกันตัวหมุนงี้ ก็ไม่มีใครขอโทษใคร ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ และมนุษย์ป้ามนุษย์ลุงแข็งแรงกว่าที่คิด ชนเราทีคือกระเด็นเสียศูนย์เลย

7. บางทีฉี่ๆ อยู่ตามห้องน้ำสาธารณะ มีคนมีเคาะประตูเฉย – ตอนแรกไม่รู้ทำยังไงนะ พออยู่ไปสักพักคือรู้ละว่า อ๋อต้องเคาะตอบ มันเหมือนเป็นการเช็คว่ามีใครอยู่ในห้องน้ำมั้ย พอเคาะตอบกลับไปคือหมายถึงว่า กำลังใช้ห้องน้ำอยู่ค่าา

8. ผูกมิตรเพื่อนเกาหลีไว้ ช่วยได้หลายเรื่อง – เพราะเป็นต่างชาติไปอยู่คนเดียวประเทศเขา ช่วยได้เยอะมาก จะย้ายบ้าน หาบ้าน คุยกะบูดงซาน ช่วยทำการบ้าน ช่วยทำวิจัย ชวนไปเที่ยว ไปกินข้าว สังสรรค์หลังเรียน มีสังคม สำคัญมาก ทำให้ชีวิตที่นั่นสนุกขึ้นเยอะ

9. เกาหลีเป็นสังคมเคารพผู้อาวุโส – ที่ยิ่งกว่าที่ไทยมากๆ แต่เรื่องนี้อาจไม่เป็นปัญหาสำหรับคนไทยเพราะคล้ายๆ กัน เช่นว่า ห้ามกินก่อนผู้ใหญ่ ยื่นของ/รับของสองมือ หรือเวลารินเหล้า/โซจูให้ต้องยกสองมือ เวลาดื่มโซจูกะคนแก่กว่าต้องหันข้างๆ ห้ามพูดแทรก อะไรประมาณนี้ ซึ่งอยู่ไปจะเรียนรู้ไปเอง

10. การดื่มเป็นการเข้าสังคมที่เกาหลี – คนเกาดื่มกันหนักมากกก ทุกโอกาส ตั้งแต่รับน้อง เลี้ยงส่ง ต้อนรับเข้าทำงาน กินเลี้ยงหลังเลิกงาน เรียกได้ว่าทุกโอกาส เหมือนเขาถือว่า พอเมาแล้วนิสัยที่แท้จะออกมา ประมาณละลายพฤติกรรม ดังนั้น ถ้าดื่มไม่ได้ให้บอกเขาแต่เนิ่นๆ ส่วนใหญ่จะมีคะยั้นคะยอบ้าง แต่จะไม่บังคับให้ดื่ม ถ้าดื่มก็ควรรู้ลิมิตตัวเองด้วยนะคะ

11. ทิ้งขยะ เรื่องใหญ่ – มีการแยกขยะ ต้องซื้อถุงแยกตามแต่ละเขตที่เราอยู่ ถุงใส่เศษอาหารก็ต้องซื้อแยก และแยกทิ้งใส่ถังขยะสำหรับเศษอาหารโดยเฉพาะ ส่วนพวกของใหญ่ๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ ฟูกที่นอน เตียงนอนอะไรพวกนี้ ถ้าจะทิ้ง ต้องเสียค่าดำเนินการด้วยนะ โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ทางเขต ซึ่งข้อบังคับพวกนี้จะแตกต่างกันไปแต่ละเขต ต้องเข้าไปดูในเว็บไซต์ของเขตนะคะ

12. โทรศัพท์ที่ซื้อในเกาหลี จะปิดเสียงกล้องถ่ายรูปไม่ได้ – อันนี้เพราะการแอบถ่ายมันผิดกฎหมาย ถ้าเป็นมือถือที่ซื้อในเกาหลี ถึงแม้เราจะเปิดโหมดสั่น โหมดเครื่องบิน หรือสลีปโหมดก็แล้วแต่ เวลาถ่ายรูปมันจะยังมีเสียง แชะ อยู่นะ ถึงมือถือเราจะซื้อไปจากไทยแล้วมันไม่มีเสียงเวลาถ่าย แต่ก็อย่าไปแอบถ่ายคนอื่นมั่วซั่วนะ โดนจับได้ถูกส่งตำรวจเน้อ

13. อากาศแปรปรวนทุกวัน จะแต่งตัวออกจากบ้านทีต้องเช็คแอพก่อน – อุณหภูมิสวิงเปลี่ยนทุกวัน หรือมีหิมะ มีฝนตกงี้ ต้องแต่งตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ ตอนอยู่ไทยอากาศมันเหมือนๆ เดิมทุกวัน (ร้อนทุกวัน) เลยไม่เคยเช็คเลย พอมานี่ต้องเช็คนะ บางทีแต่งตัวออกไปบางเชียว แต่อากาศหนาวกว่าที่คาดไว้ ต้องไปซื้อเสื้อผ้าเพิ่มก็มี 

14. ถ้าจะมาอยู่ยาว ไม่ต้องขนเสื้อผ้ามาเยอะ – รู้ๆ กันอยู่ว่าเกาหลีคือเมืองแฟชั่นอะเนอะ มีเสื้อผ้าขายมากมายหลายเกรดหลายราคา แถมเข้ากับอากาศและแฟชั่นที่นี่มากกว่า ดังนั้น ไม่ต้องขนมาเยอะจ้า มาซื้อเอาที่เกาหลีนี่ล่ะ (ถึงตั้งใจจะไม่ซื้อเสื้อผ้าเยอะ แต่สุดท้ายก็จะอดใจไม่ไหวอยู่ดี)

15. พวกเครื่องปรุงไทย เอามาแต่ที่ชอบก็ได้ แต่ไม่ต้องเอามาเยอะ – อาหารที่นี่อร่อยและค่อนข้างหลากหลาย กินวนๆไปลืมอาหารไทยเลย อย่างพวกอาหารสำเร็จหรือขนม มาม่าเกาหลี ขนมปัง ขนมกรุบกรอบ ที่เกาหลีอร่อยทุกอย่าง ขนาดข้างกล่องสำเร็จเหมือนเบนโตะตามร้านสะดวกซื้อยังอี่อยเลย ถูกและเยอะ ไม่ต้องทำอาหารไทยก็ได้ หรือถ้าอยากซื้อของไทย เครื่องปรุงไทย ก็ยังมีร้านเอเชียอยู่ ราคาไม่แพง ไม่ต้องขนมาให้หนัก

5 ทริคขอทุนเรียนต่อเกาหลี ใครอยากเรียนฟรีต้องดู! พร้อมแจกตัวอย่าง Study Plan แผนการศึกษาภาษาเกาหลี

วันนี้มีสาระจ้า ว่าด้วยเรื่อง #ขอทุนเกาหลี ทุนในที่นี้คือทุนให้เปล่าเลยนะ ไม่ต้องใช้คืน

ใครขี้เกียจอ่าน ไปฟังได้เลยย

ก่อนจะเข้าเรื่องกัน ขอบอกก่อนเลยว่า นอกจากทุนใหญ่ๆ ที่รู้จักกันอย่าง ทุน KGSP กับ ทุน EGPP ของอีฮวา ที่ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งค่าเรียน และค่าใช้จ่ายส่วนตัว ก็ยังมี ”ทุนของมหาวิทยาลัยต่างๆ” อีกมากมาย ถึงจะไม่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายส่วนตัว แต่ก็มีทุนอีกหลายทุนที่ออกค่าเรียนให้ 100% เลยน้าา
ถ้าพอมีทุนทรัพย์ในส่วนของค่ากินอยู่ ทุนค่าเรียนแบบนี้ก็น่าสนใจเลยทีเดียว (ตัวเราเองได้ทุนค่าเรียน 100% นี่แหละ แต่ออกค่ากินอยู่เองนะ)

อ่ะ มาเข้าเรื่องกัน หลายคนสงสัยว่า การขอทุนต่างประเทศ ควรทำอย่างไร เริ่มจากตรงไหน เราขอลิสต์เป็นข้อๆ ง่ายๆ ตามแบบของเรา ตามนี้

1) เตรียมคะแนนภาษาไว้ สอบเก็บไว้เลยจ้ะ ทั้งคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ได้ใช้แน่นอน ไม่สอบเก็บไว้ เดี๋ยวตอนจะใช้ไม่มีใช้นาา *ช่วงนี้กำลังจะสมัครสอบ TOPIK ด้วย 👉🏻 TOPIK in Thailand
2) หัดเขียนเรียงความ ตอนสมัครขอทุน จะมีให้เขียนแนะนำตัว และแผนการศึกษา/แพลนหลังเรียนจบ (หรือคำถามอื่นๆ เพิ่มเติม) ถ้าขอทุนเกาหลี เขียนเป็นภาษาเกาหลีได้ก็จะดี แต่ๆๆ ถ้าถนัดภาษาอังกฤษมากกว่า ก็เขียนอังกฤษได้ ม.ส่วนใหญ่ก็ยอมรับภาษาอังกฤษนะ
3) เตรียมเอกสารส่วนตัว ก่อนส่งเอกสารไปสมัครเรียน เช่น วุฒิการศึกษา, ใบเกรด(ทรานสคริปต์) แปลเอกสารเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษก่อน (ถ้าเป็นอังกฤษอยู่แล้วก็ไม่ต้องแปล) แล้วไปรับรองเอกสารที่กรมการกงสุล แล้วรับรองอีกทีที่สถานทูตเกาหลี
4) ลิสต์รายชื่อมหาวิทยาลัยที่เราจะสมัครเรียน พร้อมช่วงเวลาที่จะสมัครขอทุน ตอนเราสมัครเรียนนี่เขียนใส่ excel ไว้เลย แล้วไล่สมัครไปทุกที่ (เอ้ออ มันต้องได้ซักที่สิ)
5) เตรียมขอจดหมายแนะนำ (Recommendation letter) ส่วนใหญ่ต้องแนบไป 1-2 ฉบับ ต่อการสมัครที่นึง ทาบทามอาจารย์ หรือหัวหน้างาน หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือไว้เลย

ส่วนตัวเราว่า หลักๆ มีแค่ 5 ข้อนี้เท่านั้น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จดังใจหวังค่ะ

(ดาวน์โหลดตัวอย่าง Study Plan ได้ที่ ▶️ https://drive.google.com/file/d/1rKf4VfF0UgDZRbPs5x5DecxBX5OAHzCr/view?usp=sharing)
*เขียนเมื่อปี 2014 เก่าแล้วแต่เอาไว้เป็นแนวทางการเขียนนะคะ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ค่าา 😊

Recipe: ทำบัวลอยง่ายๆ ในต่างแดน

#lloydfamilysrecipes วันนี้ ที่บ้านมีมันเทศสีส้มเหลือ ไม่รู้จะทำอะไรกินดี
บวกกับมีแป้งอยู่ด้วย เลยทำบัวลอยสูตรมั่ว😂 แบบง่ายๆ ทำกินเอง ไม่มีการชั่งตวงวัดใดๆ
ไปดูสูตรมั่วกันเลย! (วัตถุดิบด้านล่างคือกะประมาณเอาหมดเลย)

วัตถุดิบ ตัวแป้งบัวลอย
– มันเทศสีส้ม 1 หัวใหญ่(มาก น่าจะสัก 4-5 ขีด)
– แป้งอเนกประสงค์ ~2 ช้อนโต๊ะ
– แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca flour) ~200 กรัม
วัตถุดิบ น้ำกะทิ
– กะทิกระป๋อง 1 กระป๋อง (400 มล.)
– น้ำตาล ~2 ช้อนโต๊ะ
– เกลือ นิดหน่อย

วิธีทำ
1. ต้มมันเทศสัก 10-15 นาทีให้นิ่ม ปอกเปลือก เอาเนื้อในมาบดๆ ให้ละเอียด
2. ใส่แป้งทั้งหมดลงไป ผสมให้เข้ากัน ดูให้ปั้นเป็นก้อนได้
3. ปั้นแป้งกลมๆ ต้มในน้ำเดือดจนสุก (ตัวเม็ดบัวลอยลอยขึ้นมา และดูใสๆ) พักทิ้งไว้
4. เทกะทิลงหม้อ อุ่นๆ ให้พอร้อน ไม่ต้องเดือด ใส่น้ำตาล และเกลือลงไป
5. ราดน้ำกะทิลงไปในเม็ดบัวลอยที่ทำไว้
6. เสร็จเรียบร้อย! ทานได้จ้า

สรุป
– เม็ดบัวลอยใช้แป้งมันสำปะหลังคือหนึบมากกก เคี้ยวแทบไม่ขาด 555 เหมือนกินไข่มุก ชอบ หนึบสะใจมาก
– เม็ดบัวลอยหอมมันเทศ เคี้ยวไปได้กลิ่นฟุ้งกระจายในปาก
– น้ำกะทิหวานมันกำลังดี ถ้ามีใบเตยใส่ด้วยจะเยี่ยมมาก
– ปั้นแป้งเม็ดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน คือขี้เกียจ บวกกับรีบเพราะมีตัวป่วนมากวน ชอบมาบี้แป้งที่ปั้นเสร็จแล้ว🤣
104236862_1639610792882356_2423300055611410975_n